Antonio Bocelli

Antonio Bocelli

ตัวละครตัวนี้ ไม่มีในเรื่อง โจโจ้นะ ไรท์เตอร์แค่จิ้นเอาเอง

ตอนนั้น ในขณะที่กำลังต่อสู้กับดิโอ้ เพื่อนผม โจเซฟ โจสตาร์ แกรู้ว่าจะต้องมีเรื่องร้าย เกิดขึ้นกับ คะเคียวอิน แกเลยให้ผมไปรอ อยู่ตรงแท๊งค์น้ำ ตรงจุด ที่คะเคียวอินโดน ดิโอ ฆ่า จริงๆผมว่า ดิโอแกเล็งจะเก็บเขาอยู่แล้ว เพราะ คะเคียวอินใช้พลังของเขา เพื่อที่จะหาจุดอ่อน ของแก แต่ทว่าโชคไม่ค่อยดีตรงที่ เจ้าดิโอแกสามารถหยุดเวลาได้ ผมก็รอจังหวะนั้นพอดี ผมใช้พลังจิต ยกร่างไร้ชีวิตของคะเคียวอิน ที่แท๊งค์น้ำ ให้ลงมานอนบนตักผม ก่อนจะใช้ฝ่ามือแตะตรงบริเวณแผล ซึ่งตรงหน้าท้องของเขา ถูก ตัวแสตนด์ ของดิโอต่อยทะลุ หน้าท้อง เขาเสียเลือดไปค่อนข้างมาก ผมได้ใช้พลังเยียวยารักษาบาดแผล และก็หนิบหินคริสตัล ที่พกพาติดตัวมา วางไว้บนริมฝีปาก รูปกระจับ พร้อมกับท่องเวทย์มนต์คาถา

ไม่ทันไร คะเคียวอินลืมตาขึ้นมา เขามองหน้าผม มันเหลือเชื่อก็จริง แต่ผมคงต้องบอกเขา ว่าเกิดอะไรขึ้น

‘ดิโอ?’ เขามองหน้าผม

‘หมอนั่นกำลังสู้กับ โจทาโร่’

‘ไม่นะ ฉันยังหาจุดอ่อน ความลับของเขา ไม่’

‘เดี๋ยวก่อน คะเคียวอิน ร่างกายคุณยังไม่ได้หาย จากบาดแผล 100% คุณไปตอนนี้ค่อนข้างเสี่ยง ดิโอร้ายกาจกว่าที่คิด เชื่อผม ไม่นานเดี๋ยวโจทาโร่คง ปราบดิโอ ได้สำเร็จ’ ผมบอกเขาพร้อมกับ กอดร่างของ คะเคียวอินไว้ ‘จริงๆผมก็ไม่รู้เหมือนกันหรอกนะ ว่าทำไมผมถึงเลือก ที่จะชุบชีวิตคุณ แต่ คุณโจสตาร์ ขอร้องผมไว้’

‘โจเซฟ โจสตาร์?’

‘ใช่ คุณโจสตาร์ บอกผม จริงๆ แกรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง คุณ กับ โจทาโร่ แกบอกว่า โจทาโร่ไม่ค่อย มีความรัก แกเพิ่งจะมาพบรักก็ครั้งแรก’ ได้ทีผมก็รีบ สารภาพความจริงออกมา จนหมดเปลือก ‘คุณไม่คิดเหรอ ว่าทำไม หลานชายของ ตระกูลโจสตาร์ อย่า โจทาโร่ คุโจ ถึงยอมเสี่ยงดึงเจ้า เนื้องอกประหลาด ที่ดิโอ ฝังไว้ที่หัวคุณ ก่อนจะเดินทางไปที่อียิปต์?’

‘คุณโจสตาร์ อยากให้หลานชายของแกมีความสุข ไปกันเถอะ ป่านนี้ทุกคนคงรอคุณอยู่ ที่ทะเลทราย ซาฮาร่ากันแล้วล่ะ’ ผมเอ่ยขึ้น ก่อนจะอุ้ม คะเคียวอิน และเหาะไป ตามรถพยาบาล ไปตลอดทางก่อนจะมาหยุด อยู่ตรง ทะเลทราย ผมบอกเขาให้เดินไปหา โจทาโร่ ที่ยืนไว้อาลัย ให้กับเพื่อนร่วมเดินทาง ที่เสียชีวิต ในศึกสงคราม โจทาโร่ โอบกอดคะเคียวอิน เขาตกใจ ที่เห็นคะเคียวอิน มีชีวิต หลังจากที่ถูกดิโอฆ่า แต่พอเขาเห็นผม เขาก็พอจะดูออก และคุณโจสตาร์ ก็ได้บอกความจริง ให้เขารู้ แกก็ไม่ได้ว่าอะไร หลังจากที่แกรู้ความจริง เพราะแกมีพลัง Hermit purple และพลังของแก ตอนที่เชื่อมต่อกับทีวี แกเห็นเรื่องราวในอนาคตหมดทุกอย่าง

วันนั้นก่อนจะสู้กับดิโอ แกใช้มือแตะที่หน้าจอทีวี โดยที่มีเจ้า พลังของแกที่ดูเหมือน เถาวัลย์ไม้เลื้อย และหนามสีม่วง โผล่ออกมาจากข้อมือของแก

‘แอนโทนิโอ ฉันขอร้องแกอะไรบางอย่างได้มั๊ย ถือว่า แกทำเพื่อหลานชายของฉัน โจทาโร่ คุโจ คือแกก็ไม่เคย จะมีความรักกับใครมาก่อน แต่พ่อหนุ่มผมแดง คนนี้ ฉันดูออก ว่าเขาเป็นคนที่สำคัญมากๆ สำหรับหลานชายของฉัน พวกเขาเป็นมากกว่าเพื่อนรัก ถ้าพ่อหนุ่มหน้าสวยคนนี้ เสียชีวิต โจทาโร่ แกคงไม่คิดจะรักใครอีก’ คุณโจสตาร์บอกผม ‘ฉันดูออกว่า สายตาของหลานฉัน ตอนมองคะเคียวอิน มันไม่เหมือนกับตอนที่แกมอง เพื่อนร่วมเดินทางคนอื่นๆ’

‘บอกผมมาสิ คุณโจสตาร์ ว่าคุณต้องการให้ผมทำอะไร?’ ผมถามแก แต่ก็พอจะเดา ท่าทางกริยาของแกออก ที่แท้แกอยากให้ผม ชุบชีวิตคะเคียวอิน ซึ่งผมก็ได้ทำให้แก ตามที่แกขอ แต่ผมก็ได้บอกเขาว่า คะเคียวอิน เป็นพวกที่ใช้แสตนด์ ที่ไม่เหมือนใคร ถ้าผมชุบชีวิตเขา อายุเขาจะหยุดอยู่ ที่ 17 ปี ไปตลอด ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม แต่คุณโจสตาร์ ก็ยังย้ำให้ผม ช่วยทำให้หลานชายแก มีความสุข ในที่สุดผมก็ได้ สนองความต้องการของแก แต่ใจจริง ผมก็หลงรัก คะเคียวอินเหมือนกัน ผมเลยตกลง ทำตามคำขอของ คุณโจสตาร์

แต่ที่ทำให้ผมประหลาดใจ ก็ตอนที่คะเคียวอินเลือกที่จะอยู่กับผม หลังจากที่ผมขอเขาแต่งงาน แทนที่จะอยู่ด้วยกันกับ โจทาโร่ ถึงแม้ภายนอก เขาจะดูเย็นชา แต่เขามีจิตใจที่ดีงาม ตอนเขาเด็กๆ เขาไม่ค่อยจะมีใครเข้าใกล้เขา นั่นเป็นเพราะ แสตนด์ของเขา ที่มักจะปรากฎตัวออกมา แต่ผมกลับมองว่า ตัวแสตนด์ของเขา เป็นแสตนด์ที่งดงาม มากๆ พอๆกันกับคนเป็นเจ้าของ ทั้งที่จริงๆ เขาก็รักโจทาโร่ แต่พวกเขา ไม่สามารถรักกันได้

‘โจทาโร่ ฉันเพิ่งเจอโจนาธาน โจสตาร์ ในโลก ของคนตาย แกฝากเตือน ให้นายระวัง Kira Yoshikage’ คะเคียวอินบอกโจทาโร่ ก่อนจะแยกทางกัน ตอนที่เรามารวมตัวกัน ที่สนามบินที่ไคโร อียิปต์

‘คิระ โยชิอาเกะเหรอ?’

‘ฉันก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ในอนาคต อีกไม่นาน นายคงได้เจอกับเขา ฉันเชื่อว่านาย กับพรรคพวกคนอื่นๆใน ทีมของนายคงปราบเขาได้ เหมือนที่นายสามารถเอาชนะดิโอได้ ไม่ต้องห่วง ฉันจะคอยช่วยเหลือนาย’ ผมเห็นคะเคียวอิน กับโจทาโร่คุยกัน ซักพัก ก่อนจะแยกทางกัน ผมพอจะเดาออกว่า คิระ โยชิอาเกะเป็นใคร แต่ผมกับคะเคียวอิน เลือกที่จะไม่บอกเขา ก่อนล่วงหน้า แต่แค่เตือนเขา ในฐานะที่พวกผมรู้จัก คนใช้แสตนด์เหมือนกัน แต่ผมก็เคยรู้จักกันกับเขา มาก่อนจะร่วมเดินทางกันกับเพื่อนของผม โจเซฟ โจสตาร์ ผมก็ไม่ค่อยทราบอะไรมาก เท่าที่รู้คือ แกเป็นฆาตกรต่อเนื่อง ที่หลงใหลในมือของผู้หญิง และแกก็ค่อนข้างจะอันตรายมากๆ

ที่ว่าน่ากลัวไม่ใช่พลังของแกอย่างเดียว แต่เป็นที่ความฉลาด และการวางแผนที่ค่อนข้างจะละเอียดอ่อนของแก เอาล่ะ ตอนนี้ผมก็ไม่ค่อยมีอะไรน่าเป็นห่วงอีกต่อไป หลังจากที่ได้กลับมาบ้านเกิดด้วยกันกับ คะเคียวอิน ผมดูออกว่าเขายังรัก โจทาโร่อยู่ เพียงแต่พวกเขาสองคน รักกันไม่ได้ก็แค่นั้น ครั้งสุดท้ายที่เจอกัน ก็ ซัก 9 ปีก่อนที่โจทาโร่ แกจะเดินทางไปที่เมือง Marioh ตามความต้องการของ คุณโจสตาร์ แกบอกเมียผม คะเคียวอินหมดทุกอย่าง ด้วยความที่ทั้งสองก็ยัง มีสายใย สัมพันธ์กันอยู่ อย่างเหนียวแน่น คะเคียวอินไม่พยายามจะห้ามเขา แต่กลับบอกเขาว่าภารกิจนี้ค่อนข้างจะอันตรายกว่า ตอนที่พวกเราเดินทางไปอียิปต์

เราได้แลกเบอร์โทรติดต่อกัน ก่อนจะแยกย้ายทางกัน พวกผมก็เดินทางกลับไปที่ บ้านเกิด ที่อิตาลี่ ผมหยิบภาพถ่ายรูป ด้วยกันกับโจทาโร่ และเพื่อนร่วมเดินทางคนอื่นๆ ถึงแม้ว่า โจทาโร่ กับผม จะรักผู้ชายคนเดียวกัน แต่ผมกลับไม่เคย คิดหึงหวง คะเคียวอินเลยด้วยซ้ำ ผมกลับอยากให้เขามีความสุข และผมก็ไม่อยากจะมีเรื่องบาดหมาง กับคนในคณะทีมเดียวกัน เพราะพวกเรากำลังไล่ล่าดิโอ และพวกเราต้องร่วมมือกัน ผมเลยพยายามจะผูกมิตรกับทุกคน ผมบอกโจทาโร่ว่าผมยินดี มอบความช่วยเหลือเขาหมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ซึ่งแกก็ไม่ค่อยจะอคติกับผม เพราะถ้าใครมีเรื่องกับแก ไม่ตายก็โดนอัดยับ แถมผมยังจับมือเขา

หลังจากที่ผมพา คะเคียวอินมาแนะนำ ให้คนในครอบครัวผม ที่อิตาลี่ได้รู้จัก พวกเขาเป็นมิตรมากๆ และไม่มีใครรังเกียจเขา ที่ได้แต่งงานกับผม พี่ชายของผม แอนเดรีย บอกผมว่า คะเคียวอินเป็นคนสวยมาก แต่ไม่กล้าบอกต่อหน้าเขา เพราะกลัวเขาจะไม่พอใจ ผมก็พอเข้าใจนะว่า ทำไมโจทาโร่ ถึงหลงรักเขา แต่คงไม่ใช่แค่ความสวยงาม อย่างเดียว แต่เป็นความรู้สึกอบอุ่น เป็นมิตร ต่อให้เขาเป็นชายหนุ่มคนญี่ปุ่น ที่งดงามมากเพียงใด แต่ภายนอกเขาจะดูเหมือนคนเย็นชา

ครอบครัวของผม ต้อนรับเขาอย่างดี และเป็นมิตร พวกเขาไม่ค่อยดูถูกคนเอเชีย แต่ก็แปลกใจที่ผมได้เมียเป็นคนที่ใช้แสตนด์ เหมือนเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ แต่แสตนด์ของเมียผม ค่อนข้างจะมีพลังที่ไม่ค่อยเหมือนคนอื่น เป็นตัว Hierophant green ผมมักจะเห็นเจ้า Hierophant ลอยตามเมียผมไปทุกที่ๆเมียผมไป ราวกับเป็นบอดี้การ์ด เขาค่อนข้างจะชอบอยู่เงียบๆ ในห้องสมุด ที่บ้านคฤหาสถ์ ของผม เขาบอกผมว่า เขาเต็มใจที่จะแต่งงานกับผม และไม่รู้สึกผิดหวัง กับการตัดสินใจของตัวเอง เพราะเขารู้อยู่แล้วว่า ระหว่าง เขากับโจทาโร่ คงไปกันไม่รอด อีกอย่างในอนาคตโจทาโร่ อาจแต่งงาน และมีบุตรสาว ชื่อโจลีน แต่เขาคงไม่ค่อยได้มีเวลาให้หล่อน เนื่องจากเขาเองก็ติดธุระ และงาน ทำให้เขาหย่าขาดจากภรรยา แต่เขาก็ยังรักลูกสาวคนเดียวของเขา

ผมอาจมองเขาผิดไป ตอนที่ผมนึกว่าเขาจะเลือกแต่งงานกับโจทาโร่ แต่เขากลับฉลาดกว่าที่ผมคาดคิดไว้ก่อนล่วงหน้า เขาใช้เวลาศึกษาข้อมูล ที่หามาได้จากในห้องสมุด ทั้งศาสตร์การใช้เวทย์มนต์กับพลังจิต เนื่องจากเขาเพิ่งฟื้นมาจากโลกแห่งความตาย ทำให้เขาได้รู้ว่า บางทีศัตรูอาจมีพลังที่แข็งแกร่ง และก็ไม่ควรที่จะดูถูกคู่ต่อสู้ ผมรู้อยู่แล้ว ตั้งแต่ที่ผมเห็นเขาสู้กับ ดิโอ ว่าเขาคงจะไม่รอด แต่เหมือนตัวเขาเองก็จะรู้ แต่เนื่องจากผมเคยรับปากกับ คุณโจสตาร์ไว้แล้ว และผมก็เต็มใจที่จะชุบชีวิตเขาอีกครั้ง ทั้งที่จริงๆมันก็มีกฎในโลกเวทย์มนตร์เหมือนกัน เรื่องการชุบชีวิตคนตาย แต่ผมก็ได้ทำผิดกฎไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยการใช้หินคริสตัลต้องคำสาป ผมไปได้มาจาก สุสานเมืองเวทย์มนต์

คืนนั้นคะเคียวอิน นอนหลับอยู่บนเตียง ในห้องนอนของผม โดยที่ผมนั่งอ่านหนังสือคัมภีร์เวทย์มนต์ จริงๆแล้วพ่อผม เป็นนักเวทย์ที่มีพลังอำนาจมากที่สุด ส่วนคุณแม่ของผม ฟาเทีย เป็นคนที่ใช้พลังแสตนด์ แม่เลยสามารถมองเห็นตัวแสตนด์ ของเมียผม ตัวที่เป็นสีเขียว ในหมู่บ้านผม มีทั้งคนที่ใช้ตัวแสตนด์ กับ เวทย์มนต์ เพราะฉะนั้นผมมีพลังในการ ชุบชีวิต และ การสะกดรอยตาม ดิโอ กับเห็นในนิมิต ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น อีกอย่างผมสามารถหยุดเวลาได้ แล้วก็สามารถซ่อมแซม ซากปรักหักพัง รักษาเยียวยาบาดแผลได้เหมือน โจสุเกะ นานๆที โจทาโร่จะเดินทางมาที่บ้านผม เพื่อมาเยี่ยมคะเคียวอิน ด้วยกันกับ เพื่อนของผม โจเซฟ โจสตาร์ เพราะฉะนั้น แผลที่เป็นรอยหมัดทะลุ ของตาดิโอก็ไม่ค่อยปรากฎให้เห็น ตรงหน้าท้อง ของคะเคียวอิน แต่ตอนนี้ ในท้องของเขา มีเจ้าตัวน้อย ซึ่งเป็นบุตรชายของผม อยู่ข้างใน แกคงจะได้ออกมา ลืมตาดูโลกในอีกไม่นาน

Leave a comment