Kakyoin Noriaki 1

Kakyoin Noriaki

หลังฟื้นจากโลกแห่งความตาย ทั้งที่จริงๆ ผมน่าจะตายไปแล้วตอนที่โดนดิโอฆ่าตาย ที่แท๊งค์น้ำ ที่ด่านฟ้าบนตึก ที่ไคโร ประเทศอียิปต์ ตอนนั้นทุกสิ่งทุกอย่าง รอบตัวดันมืดหมด ราวกับหลงมาอยู่ในโลกอีกมิติหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นผมก็ไม่รู้ตัวหรอก ว่าตัวเองตายไปแล้ว รู้แต่ว่าเห็นโจทาโร่กอดร่างผมไว้ สีหน้าของแก ดูเศร้าๆ และโกรธแค้น ปากตะโกนด่าใครบางคน ไม่ทันไร แกก็ทิ้งให้ผม อยู่กับ แอนโทนิโอ ซึ่งกำลังใช้พลังเวทย์มนต์ กับก้อนหินคริสตัล หน้าตาแปลกๆ

ก่อนที่ผมจะค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา อยู่ในอ้อมแขนของ แอนโทนิโอ โดยที่ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นโจทาโร่ กำลังต่อสู้กับดิโอ ผมคิดว่าแกไม่น่ารอด เลยจะตามไปช่วยแก เพื่อจะหาจุดอ่อน และจับพลังของดิโอ ตอนนี้พอลืมตาขึ้นมา เห็น คุณโจสตาร์ กับโปนาเรฟ ก้มลงมองผม ที่ยังนอนใน อ้อมแขนของแอนโทนิโอ

‘คะเคียวอินฟื้นแล้ว’ โปนาเรฟเอ่ยขึ้นราว กับเป็นเรื่องอัศจรรย์

‘แสดงว่า พลังของนายได้ผลจริงๆ’ คุณโจสตาร์หันไปมอง แอนโทนิโอ

‘เกิดอะไรขึ้น แล้วทำไมฉันถึง มาอยู่นี่ได้ล่ะ?’ ผมหันไปมองหน้าทุกคน ที่มามุงดู ‘โจทาโร่’

‘แกสู้กับดิโออยู่’ โปนาเรฟ เอ่ยขึ้น

‘คุณอย่าเพิ่งไปเลย คะเคียวอิน ขืนคุณไปตอนนี้ คุณจะแย่’ คุณโจสตาร์เอ่ยขึ้น ‘แอนโทนิโอ แกรีบพาคะเคียวอินไปอยู่ในที่ๆ ปลอดภัย พยายามอย่าให้ดิโอ มันรู้เด็ดขาดว่า คะเคียวอิน ยังมีชีวิตอยู่ ไม่งั้นแกกับ คะเคียวอิน จะพลอยโดนมันดักทำร้ายเอา หมอนี่แสบยิ่งกว่า วายร้ายรายอื่นๆ’

หลังจากนั้น การต่อสู้กับ ดิโอได้สิ้นสุดลง แอนโทนิโอ บอกผมให้เดินไปหา โจทาโร่ ที่กำลังยืนไว้อาลัยพรรคพวก คนที่เสียชีวิต ในสงคราม สีหน้าเขาดูค่อนข้างช็อค หลังจากที่เขาเห็นผมเดินเข้ามาหาเขา ราวกับเห็นผี

‘คะเคียวอิน คุณ?’ โจทาโร่จ้องหน้าผม ตอนนั้นเจ้า Hierophant green ก็ปรากฎตัวออกมาด้วย

‘แปลกใจมากเหรอ ที่เห็นฉัน’ ผมเอื้อมมือไปแตะแก้มเขา

‘แต่ผม คุณ’ เขามองหน้าผม สลับกับแอนโทนิโอ ก็พอจะเดาออกว่าเกิดอะไรขึ้น และรู้ว่าทำไมเห็นผมฟื้นจากความตาย เขากอดผมแน่นในอ้อมแขน ก่อนจะซุกหน้าลงบนหัวไหล่ ก่อนที่เขาจะจุมพิษผมบนริมฝีปาก ถึงแม้ว่าเราสองคน จะมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน แต่ผมไม่สามารถรักเขาได้ ซึ่งสาเหตุเป็นเพราะอะไร ผมรู้ดีอยู่แก่ใจ เพราะที่โจนาธาน ยอมให้ผมกลับไปมีชีวิตได้ แต่แกบอกว่า มีเงื่อนไขอยู่อย่างคือ ผมสามารถคบกับโจทาโร่ เป็นแค่เพื่อนรัก แต่เป็นอะไรมากเกินกว่านั้นไม่ได้ เพราะแกถูกลิขิต ให้แต่งงานกับมีลูกสาว 1 คน แต่ก็ใช่ว่าเราจะพบเจอกันไม่ได้

และนี่เป็นสาเหตุที่ผมเลือกแต่งงานกับ แอนโทนิโอ เพื่อที่จะได้มีโอกาส ที่จะได้มีชีวิตอยู่ต่อ ทั้งที่ความจริง ผมก็ยังรักเขาอยู่ แต่นั่นคงเป็นเรื่องในอดีต แต่ก่อนที่เราจะแยกย้ายกัน ต่างคนต่างไป โปนาเรฟ แกก็มาด้วยเหมือนกัน ผมได้บอกเขาเรื่อง ที่โจนาธาน โจสตาร์ เอ่ยเตือนเขา ให้ระวัง คิระ โยชิอาเกะ ซึ่งโจทาโร่ คงจะได้พบแกในอนาคต

‘ฉันว่าหมอนี่ ยังไม่แสบเท่ากับตาดิโอนะ แหมะ กว่าจะสู้มันได้นี่ เล่นกวนตีน หยุดเวลาบ่อยมาก แถมหมัดหนักชิบ’ แอนโทนิโอบ่น

‘หมอนี่ฆ่าฉันตายไปครั้งนึงล่ะ ตอนแรกก็ว่าจะจับพลังมัน ใครจะไปรู้ล่ะ ว่ามันจะมาฆ่าฉันซะก่อน แสบเหมือนกันนะรายนั้น’ ผมยังจำได้เลย ว่ามันต่อยทีท้องนี่ทะลุเป็นรูโหว่ แอนโทนิโอ แกมีเครื่องบินส่วนตัว ที่จอดรออยู่ที่สนามบินเรียบร้อยแล้ว ตอนนั้นหลังแยกทางกันกับพวกโจทาโร่ ก่อนจะได้นั่งเครื่องบินส่วนตัวของแก แกดันมาขอผมแต่งงาน ซึ่งผมก็ตอบตกลง ด้วยความเต็มใจ เครื่องบินส่วนตัวของแก ถือว่าเป็นเครื่องบินที่ราคาแพง และมีห้องนอน ห้องอาบน้ำส่วนตัว กับห้องรับแขก สำหรับนั่งดื่มไวน์ แชมเปญ ตอนแรกที่เห็น แอนโทนิโอ โบเซรี่ ตอนแรก ผมนึกว่า แกอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับ โจทาโร่ และผม แต่พอแกบอกว่า แกอายุเท่าคุณโจเซฟ โจสตาร์ ผมและพรรคพวกคนอื่นๆ นี่ตกใจแทบช็อค แกดูไม่เหมือนคนแก่เลยด้วยซ้ำ ขนาดโปนาเรฟ พยายามจะมองหา ร่องรอย ตีนกงตีนกาบนใบหน้าแก ก็หาไม่เจอ

ทีแรกพวกเรานึกว่าแกล้อเล่น แต่พอดูพาสปอร์ตแก ถึงรู้ว่า แกอายุเท่ากับ คุณโจสตาร์จริงๆ แต่คงไม่มีอะไรที่แปลกประหลาดมากกว่านี้อีกแล้ว พวกเราโชคดีที่รอดมาได้ แต่ผมก็ห่วงความปลอดภัยของโจทาโร่ แต่คุณโจสตาร์ แกบอกว่าหลานแกอึด ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องห่วง และสุดท้ายแกรอดมาได้จริง

พอหลังจาก ที่พวกเราต่อสู้กับดิโอ ได้สิ้นสุดลง 10 ปีต่อมา พวกเราได้เดินทางไปเยี่ยมโจทาโร่ ที่บ้านเกิดของแก เราได้มีโอกาสพบเจอกันอีกครั้งนึง ซึ่งตอนนั้นโจทาโร่ แกวางแผนจะเดินทางไปยังหมู่บ้าน มาริโอโจ แกถือภาพถ่ายของ เด็กหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่ง โจสุเกะ ซึ่งเป็นลูกชายอีกคน ของคุณโจสตาร์

‘ฉันเพิ่งรู้หลังจาก คุณตาของฉันมาบอก ตอนแกป่วย’ โจทาโร่ได้ สารภาพความในใจออกมา ซึ่งเรื่องนี้ ไม่มีใครรู้ นอกจาก คุณโจสตาร์ ตอนนั้นแกป่วยหนักมาก และคิดว่าตัวเองจะไม่รอด ซึ่งตอนนั้นผมก็ได้ไปเยี่ยมแก กับสามี ด้วยกัน และตอนนั้นผมก็กำลังตั้งครรภ์ เลยเดินทางไม่ค่อยจะสะดวก

‘อ่าว แอนโทนิโอ นายพาคะเคียวอินมาด้วยเหรอ?’ คุณโจสตาร์ ถามเพื่อนแก ก่อนจะหันมามองผม

‘ใช่แล้วล่ะ คุณโจสตาร์ คะเคียวอิน เป็นภรรยาตามกฎหมายของฉันแล้วล่ะ และตอนนี้เรากำลังจะมีทายาท คนต่อไป ในตระกูลของฉัน พ่อแม่ฉันกำลังดีใจว่าจะได้มีหลาน’ แอนโทนิโอ บอก คุณโจสตาร์ ซึ่งแกก็ไม่ได้ว่าอะไร แกหันมายิ้มให้ผมพร้อมกับพูดว่า ‘ยินดีด้วยนะ แอนโทนิโอ คะเคียวอิน’

แต่สีหน้าของโจทาโร่ แกดูนิ่งๆ เผยให้เห็นแววตาของความเจ็บปวด แต่แกไม่ค่อยจะแสดงออกตรงท่าทาง แกเก็บอารมณ์เก่ง แต่มีเหรอที่ผมจะไม่รู้ ในเมื่อเรานอนพักห้องเดียวกัน ตลอด เนื่องจากเราสองคนเป็นเพื่อนนักเรียน แกดีใจที่ผมฟื้นขึ้นมาจากโลกแห่งความตาย แต่แกก็อยากจะอยู่ด้วยกันกับผม เพียงแต่ เรารักกันไม่ได้ ก็แค่นั้น เลยเป็นได้แค่เพื่อนรักกัน แต่ทางครอบครัวของ แอนโทนิโอ แกไม่ค่อยดูถูก หรือแสดงท่าทีรังเกียจ ตอนที่แกแนะนำให้ผมรู้จักกับทางบ้านของแก ที่อิตาลี่ ซึ่งเป็นบ้านเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่อง การทำพาสต้า กับอาหารอิตาเลี่ยน แกบอกว่าเพื่อนแก โทนิโอ กำลังวางแผนจะไปเปิดร้านอาหารอิตาเลี่ยน ที่เมือง มาริโอ ตอนนั้นเรา นั่งรับประทานอาหาร ด้วยกัน ที่บ้านคฤหาสน์หลังใหญ่ ของเขา ที่สวนไร่องุ่น

‘จริงเหรอ โทนิโอ แกจะไปเปิดร้านอาหารอิตาเลี่ยนที่นั่น’

‘ใช่ แล้วล่ะ รู้สึกว่าทุกคนในหมู่บ้านแห่งนี้จะติดใจฝีมือทำอาหารของฉัน’

‘อืม ก็ดีนะ ส่วนคนนี้ก็เมีย ฉันเอง คะเคียวอิน เขาเพิ่งจะได้เรียนรู้ ศาสตร์ เวทย์มนต์ใหม่ๆเยอะ’ แอนโทนิโอ เอ่ยขึ้น ในขณะที่พวกเรา นั่งรับประทานอาหาร อิตาเลี่ยน ฝีมือของโทนิโอ

‘เมียนายนี่ หน้าตาสวยนะ’ โทนิโอ เอ่ยชม ซึ่งสำหรับผม ผมเริ่มรู้สึกอึดอัด แต่ก็ได้แค่นั่งยิ้มแบบฝืนๆไป ก่อนจะขอตัวกลับเข้าไป นั่งอ่านหนังสือ ในห้องหนังสือ ที่บ้านของแก และปล่อยให้พวกเขา สองคนนั่งคุยกันถึง ความหลัง โทนิโอ เป็นเพื่อนสนิทของเขา ที่เป็นคนอิตาเลี่ยน และแกมีพลังแสตนด์ของแก ที่มีรูปร่างคล้ายๆ เจ้าลูกมะเขือเทศราชินี น่ารักๆ แต่การจะลงทุนทำร้านอาหาร ก็ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ แต่คนอย่าง โทนิโอ แกคงไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอกนะ

Leave a comment